เสริมความรู้และบันเทิงตามสไตล์ของคุณระหว่างจิบกาแฟ

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เซ้งร้าน COZEE CAFE'

ต้องการเซ้งร้าน COZEE CAFE' พร้อมอุปกรณ์ในร้าน สามารถดำเนินการต่อได้เลย เหตุผลที่เซ้งเนื่องจากต้องกลับไปรับหน้าที่ธุรกิจส่วนตัวของทางบ้านและไม่มีเวลามาดูแลที่ร้าน สนใจติดต่อ คุณอร 089-771-2079 หรือ คุณยุ้ย 086-304-0009

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

อาหารกล่อง (Meal Box)


รับทำข้าวกล่อง มีให้เลือกหลายเมนู มีบริการจัดส่งตามเวลาที่ท่านกำหนด
**อาหาร ทุกกล่องใหม่ สด สะอาด ผลิตเมื่อท่านสั่งเท่านั้น**
(พร้อมอุปกรณ์ ช้อน กระดาษทิชชู ซอสเครื่องปรุงรส ฯลฯ ในบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด )
บริการจัดส่งตามสถานที่ต่างๆ ตามกองถ่าย โรงเรียน มหาลัยวิทยาลัย บริษัท งานสัมมนา จัดทัวร์ งานออกค่ายต่างๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ cozeecafe@hotmail.com หรือ 08-9771-2079

ข้าว หมู, ไก่ 50 บาท กุ้ง, หมึก 60 บาท
ผัดกระเทียมพริกไทย, ผัดกะเพรา, ผัดพริกสด, ผัดพะแนง, ผัดเขียวหวาน, ผัดผงกะหรี่, ข้าวผัด

ข้าว 60 บาท
ข้าวผัดเบคอน+แฮม, ข้าวผัดอเมริกัน, ข้าวผัดกุนเชียง, ข้าวผัดแหนม, ข้าวคลุกกะปิ, ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู, ข้าวผัดปลากระป๋อง, ข้าวผัดปลาทูน่า, ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ, ข้าวลาบหมู

สปาเก็ตตี้/มักกะโรนี หมู, ไก่ 60 บาท กุ้ง, หมึก, ไส้กรอก, แฮม 70 บาท
สปาเก็ตตี้/มักกะโรนีขี้เมา, สปาเก็ตตี้/มักกะโรนีผัด, สปาเก็ตตี้/มักกะโรนีซอส, สปาเก็ตตี้/มักกะโรนีเขียวหวาน

สลัด 50 บาท
สลัดผักม สลัดหมู, สลัดไก่, สลัดไข่ต้ม

สลัด 60 บาท
สลัดกุ้ง, สลัดมักกะโรนี, สลัดทูน่า, สลัดแฮม

แซนวิช 55 บาท
แซนวิชไก่, แซนวิชแฮมชีส, แซนวิชทูน่า, แซนวิชไข่เจียว, แซนวิชไส้กรอก

หมายเหตุ
• อาหารบรรจุใส่กล่องพลาสติกคุณภาพดีสามารถอุ่นในไมโครเวพได้ พร้อมช้อนส้อมพลาสติกและทิชชู
• กรุณาสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
• กรุณาสั่งอาหารอย่างน้อย 10 กล่องต่อรายการ
• ต้องการน้ำดื่ม คิดบริการเพิ่ม 15 บาท/ขวด, กาแฟสดเอสเปรสโซ่ 55 บาท/ขวด
• ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ บริการส่งขั้นต่ำ 2,500 บาทขิ้นไป โดยค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง
• จัดส่งฟรี เมื่อสั่งซื้อ 100 กล่องขึ้นไป เฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล
4/280 หมู่ 14 ห้อง 104-105 ถ.ลาดพร้าววังหิน
แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. 10230
Mobile: 08-9771-2079, 08-6304-0009 Tel/Fax: 0-2942-1166

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ทำนายความรักตามวันเกิด

วันอาทิตย์ คนเกิดวันนี้ มีหัวใจกล้าได้กล้าเสีย ในเรื่องความรักนั้นถือคติว่า เสี่ยงเป็นเสี่ยงกันตามประสาคนชอบสนุก เจ้าสำราญพอสมควร คนวันอาทิตย์เจ้าชู้จึงมีดวงในเรื่องความรักที่โดดเด่น คือได้พบรักเสมอๆ มักปิ๊งคนเด่น ๆ ที่ดูดีกว่าใครในกลุ่มคนที่มีท่าเรียบง่ายจนเกินไป ค่อนข้างเชยๆ ไม่ใช่คนแบบที่คุณจะสะดุดตา สะดุดใจแน่นอน ใครก็ตามที่ห้าวเกินเหตุ คนวันอาทิตย์ก็ยากจะตัดใจคิดชอบพอ ความสดใส มั่นใจในตัวเอง คือเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ หลงรักคนเกิดวันอาทิตย์และนิสัยที่แข็งเกินไปของคุณก็คือตัวการสำคัญที่จะทำลายความรักให้พังทลายไปอย่างน่าเสียดาย ยามหลงรักใคร คุณจะตามติดหวังพิชิตให้ได้ เมื่อสมใจแล้ว คุณกลับไม่ยอมให้คู่รักมาเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนที่แท้ของคุณ ถ้าใครยอมคุณได้ก็รักกันได้นานแน่นอน โดยทั่วไป ดวงในเรื่องความรักของคนวันอาทิตย์ ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรนัก จีบใครหรือทอดสะพาน ให้ใครก็มักสำเร็จเสมอ อยู่ที่ว่าตัวคุณเองนั่นแหละ จะเป็นฝ่ายจืดจางห่างเหินอีกฝ่ายเสียก่อน ตามประสาคนเจ้าชู้ที่หัวใจอ่อนไหว และอยากคบคนใหม่ๆ เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องท้าทายดี ชอบหาความมั่นใจให้ตัวเองด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ บางครั้งทั้ง 4 ห้องหัวใจเต็มหมด ห้องไหนทนไม่ไหวโบกมือลาไปคุณก็ไม่เสียใจ มีใครคนใหม่มาแทนได้เร็วเสมอ ดวงความรักค่อนข้างดี ตัวเองไม่มีปัญหา แม้จะชอบตามใจตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยเอะอะเอาเรื่องกับความรักจริงจังนัก ปัญหามักเกิดขึ้นเพราะคน รักของคุณ ซึ่งคิดจะเอาเรื่องกับคุณให้ได้ หรืออาจเป็นเพราะความใจร้อนของคุณบ้าง โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดการแตกหักหรอก ดังนั้นถ้าใครเข้าใจคุณก็สามารถควงกับคุณได้นานเป็นพิเศษ
วันจันทร์ คนวันจันทร์ไม่แสดงออกถึงความเจ้าชู้เด่นชัดอย่างคนวันอาทิตย์ แต่จริง ๆ แล้ว เป็นคนเจ้าชู้เงียบ แอบโปรยเสน่ห์อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน ซึ่งก็มีคนหลงปลื้มอยู่เสมอไป ด้วยความที่เป็นคนอ่อนโยน ฉลาด รอบรู้ มีมนุษยสัมพันธ์ดีพอควร คนวัน จันทร์ชอบทำตัวน่ารัก แต่ถ้าเริ่มคบหาจริงจังกับหวานใจแล้ว จะแสดงความดื้อดึงออกมาทันที เพราะเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไม่น้อย ดวงความรักของคุณจึงแสนซึ้งในช่วงต้น ๆ เพราะพื้นดวงเป็นคนสุภาพ น้อยคนนักที่จะห้าวมากๆ นอกจากเกิดในวันจันทร์ และถ้าความรักจะมีปัญหาก็มักเป็นเพราะตัวคุณเอง เนื่องจากเป็นคนช่างคิดอยู่แล้ว จึงคิดมากคิดไกลเกินไปเสมอและเป็นเหตุร้าวฉานในความสัมพันธ์ได้ไม่ยาก ดวงความรักของคุณค่อนข้างไม่ธรรมดา ความรักแท้มักเกิดขึ้นกับคนที่รอบข้างแอบส่ายหน้า ว่าไม่เหมาะสมกัน ถ้าไม่แก่หรืออ่อนวัยกว่ามากๆ ก็อาจแตกต่างกันที่ฐานะ หรือการศึกษา ด้อยกว่าในเรื่องใดเรื่องหนี่งแน่นอน และมักจะได้แสดงถึงความรักแท้เหมือนในหนัง คือการฝ่าฟันกับกระแสการกีดกันของครอบครัว เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปนี้ ถ้าใครได้คู่ที่สมกันดีไม่มีใครห้ามปรามก็ต้องนับว่าโชคดี คงมีดวงในราศีเกิดหรืออิทธิพลอื่นๆ ที่เสริมให้ดวงความรักไปได้ดีกว่าพื้นดวงที่ น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่สุดท้ายแล้ว คนวันจันทร์จะแฮปปี้สมหวังเสมอ ไม่ค่อยผิดหวังในเรื่องรัก นอกจากจะมีทุกข์ในหัวใจที่ตัวเองคิดเองรู้สึกเองไม่ใช่คนที่คุณรักก่อขึ้นหรอก หรือบางกรณีก็เป็นเพราะคุณแอบหวั่นไหวไปปลื้มคนอื่นแล้วผิดหวัง ถ้าดูแลหัวใจตัวเองให้ดี ๆ ไม่วอกแวกไปไหน คุณก็มักมีคู่รักที่คบกันเนิ่นนานจนเพื่อนๆ อิจฉาเสมอแน่นอน
วันอังคาร ถ้าคุณเกิดวันอังคาร คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความรักของคุณหรอก เพราะดวงในเรื่องความรักค่อนข้างดี หมายถึงดวงคู่แท้ ๆ ที่เป็นความรักแท้ๆในชีวิตด้วยเช่นกัน พื้นฐานนิสัยของคุณแม้จะห้าวหาญวู่วาม และตรงไปตรงมาจนน่าถอยห่าง แต่เสน่ห์ของคุณมีเสมอกับเพศตรงข้าม ทำให้ไม่มีช่วงใดที่ไร้คู่นานวันนัก นอกจากบางช่วง คุณจะยังไม่คิดในเรื่องนี้จริงจังเท่านั้น คนวันอังคารเจ้าชู้แค่อารมณ์เท่านั้น ไม่ได้เจ้าชู้เป็นนิสัยถ้าเจอะเจอคนหล่อหรือคนสวยในแบบที่พึงพอใจ ก็จะส่งสายตา ไปก่อนอื่น แต่ไม่ใช่คนที่จะต้องปราดเข้าไปขอทำความรู้จักทันใด แม้จะเป็นคนกล้าแกร่งปานใดก็เถอะ เว้นแต่ว่าถ้าได้รู้จักกันแล้วและหลงรักเข้าแล้วเท่านั้นที่คนวันอังคารจะติดตามผลงานอย่างตั้งใจ จนกว่าจะได้ใจของใครคนนั้นไม่มีวันที่คุณจะจีบเล่นๆ แบบนินจาเดี๋ยวมาเดี๋ยวหายแน่นอน คนวันอังคารเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน และมีดวงแบบตกหลุมรัก เมื่อแรกสบตาได้มากกว่าคนเกิดวันใด น้อยเหลือเกินที่จะเห็นคนวันอังคารมีความรักกับเพื่อนที่คบกันนานปี แล้วค่อยๆ พัฒนาเป็นความรักและในกรณีที่เป็นคู่รักกันแล้วหากมีเรื่องปะทะอารมณ์ใส่กัน คุณก็จะปิดปากเงียบไม่ยอมขอโทษว่าตนผิดเอง ทั้งๆ ที่ในใจคุณอยากง้อใจจะขาด นอกจากว่าทะเลาะกับคู่รักบ่อยๆ ครั้งจนรู้สึกชินแล้วนั่นแหละคุณถึงจะง้อเป็น กล้าที่จะเอ่ยคำว่าเสียใจออกไปได้ ในท่วงท่าที่ดูเป็นคนมุทะลุวู่วามไม่จริงใจกับใครแท้จริงแล้ว คนวันอังคารเป็นคนรักที่คงมั่นมาก ตามดวงชะตาบ่งบอกว่า เป็นคนรักจริงหวังแต่ง มักได้คู่ดี เว้นแต่บางช่วงจะไปรักคนผิดจนเดือดร้อนไม่น้อย ดวงความรักของคุณหากจะมีปัญหาก็อยู่ที่อารมณ์เท่านั้น ถ้าร้อนเจอร้อนก็จบเร็วแน่ ถ้าคุณลดไฟในอารมณ์ตัวเองได้หรือเลือกคนใจเย็นเป็นน้ำ ก็รักกันยั่งยืน ยากจะแตกร้าวได้
วันพุธ คนเกิดวันพุธมักมีดวงเกี่ยวกับความรักในแบบที่ลึกซึ้ง ไม่รักเพียงหวือหวาให้ตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น ด้วยธรรมชาติและพื้นดวงที่เป็นคนช่างคิดช่างตรองรอบคอบกับทุกเรื่องราวเสมอ ดังนั้นกับในเรื่องรัก คุณจึงต้องมั่นใจก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้ามาแนบใจ เสน่ห์ที่โดดเด่นของคนวันพุธอยู่ที่ศิลปะในการพูดจาทำให้ใครๆ หลงเคลิ้มได้เสมอ และยังเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดีอีกด้วย นั่นเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนรอบข้างชื่นชมเป็นพิเศษ แต่แม้ว่าจะมีใจชอบใคร คนวันพุธจะไม่เปิดเผยทุกอย่างแก่ คนรักเนื่องจากเป็นคนมีโลกส่วนตัว ชอบเก็บบางเรื่องราวไว้กับตัวเองเหมือนกับที่เป็นคนชอบอิสระ และรักสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว คนเกิดวันพุธจริงๆ แล้วมี 2 แบบคือ แบบที่ควักเงินทุ่มให้คนรักแบบสุดๆ กับอีกประเภทคือ เหนียวสุด ๆ กับคนรัก คุณเป็นแบบไหนก็คงต้องตรวจสอบดูตัวเอง แต่ที่มีอยู่ในตัวคนวันพุธทั้ง 2 แบบ ก็คือมักจะปิ๊งคนที่อ่อนวัยกว่าเพราะอยากที่จะดูแลคนรักของตนแบบแสนห่วงหวง และคุณก็มักชอบมีรักแบบที่ค่อยๆ ใกล้ชิดติดใจกันไปทีละนิด คุณแพ้คนที่เข้าใจคุณถ่องแท้ ดวงของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะพบรักที่ซาบซึ้งตรึงใจและมีความผูกพันกันมาก เพราะเป็นความรักที่มีพัฒนาการ เต็มไปด้วยความเข้าใจในกันและกัน พยายามที่จะรู้จักตัวตนแท้ ๆ ของกันและกันนั่นเอง คนวันพุธโชคดีที่ได้ปิ๊งกับคนคล้ายๆ กัน รสนิยมไม่ต่างกันราวฟ้ากับดินนัก คุยกันรู้เรื่อง ถ้าใครที่ดูดีอย่างเดียว แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ทัศนคติต่างกันมาก ๆ คนวันพุธจะละความสนใจทันที หากเมื่อใดที่อกหัก คนวันพุธก็จะไม่ฟูมฟายมากนักแม้จะปวดใจเพียงใด คนที่เป็นคู่รักของคนวันพุธได้ดีต้องมีลักษณะของความเป็นเพื่อน ฮไปไหน ๆ ด้วยกันได้ ถ้าทำสวีทเป็นเจ้าของเกินไป มักอยู่กับคนวันพุธได้สั้นกว่าที่หวัง
วันพฤหัส ถ้าคุณเกิดวันพฤหัสบดี มั่นใจได้เลยว่าคุณจะเป็นคนรักที่ดีให้ใครคนนั้นได้ ภาคภูมิใจแน่ เพราะคุณมีทั้งความเอื้ออารี มีน้ำใจ เป็นคนสติปัญญาดี มีความยุติธรรม เป็นคนที่ใครก็ยอมรับและชื่นชมคุณเป็นคนรักจริง เกลียดจริง ถ้าเกลียดใครก็ไม่เสแสร้งคบหาต่อไปให้ต้องฝืนตามวิสัยของคุณวันพฤหัสบดีที่ตรงพอสมควร ดวงในเรื่องความรักของคนวันพฤหัสบดี ไม่ค่อยโลดโผนพิสดารมากนัก ความรักค่อยเป็นค่อยไปอย่างเรียบง่าย หากจะมีเรื่องปวดหัวใจบ้างก็เป็นเพราะความมองโลกในแง่ดีเกินไป บางครั้งจึงหลงคารมคนไม่จริงใจหรือบางครั้งก็คิดไปเองว่าใครคนนั้นมีใจด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นดั่งที่แอบคิดแอบหวั่นไหว คนเกิดวันพฤหัสบดีเป็นคนใฝ่รู้ ถ้าช่วงใดเจ็บหัวใจ ก็จะทำใจด้วยการทุ่มเทในเรื่องที่มีสาระมีประโยชน์กับชีวิต ความน่ารักของคนวันพฤหัสบดีอยู่ที่ความสดใส เปิดเผย มีความมุ่งมั่นเสมอ ไม่ใช่คนที่เลื่อนลอยไร้สาระ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนวันพฤหัสบดีอีกลักษณะหนึ่งคือไม่ค่อยเรียบร้อยและขาดความสุขุมรอบคอบ คนวันพฤหัสบดี ไม่ค่อยเจ้าชู้ แม้จะดูมีท่าทีเข้ากับคนง่าย สดใส เป็นกันเอง แต่ไม่ได้ชอบใครง่าย ๆ เสมอไป ถ้ารักใครก็จะรักอย่างซื่อสัตย์ หากจะผิดหวังก็ดังที่กล่าวมาแล้ว คือการไปรักคนผิด คิดว่าดีที่แท้ไม่ใช่ ดวงความรักของคนวันพฤหัสบดีนั้นจะมีรักจริงจังก็ต่อเมื่อพบเจอคนที่เรียบง่ายคล้ายๆกัน ไม่ใช่ฟู่ฟ่าหรูหราเกินไปนัก คิดแต่เรื่องสร้างสรรค์มากกว่าเรื่องเฮฮาปาร์ตี้ ปัญหาในรักมักใม่ใช่อยู่ที่ตัวคุณเอง เพราะคุณอดทนได้เสมอ แต่คนที่คุณรักต่างหากที่จะนำเรื่องปวดหัวมาให้
วันศุกร์ คนที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนที่ต้องพัวพันกับเรื่องรักๆใคร่ๆเสมอ เพราะดาวศุกร์เป็นสัญลักษณ์ของดวงดาวประจำเทพีแห่งความรัก คุณผู้หญิงวันศุกร์จึงเป็นคนรักสวยรักงามเป็นพิเศษ คุณผู้ชายก็สำอางไม่เบา ถ้าผู้ชายคนใดที่บำรุงผิวหน้าด้วยโลชั่นหรือพรมน้ำหอมเสมอก่อนออกจากบ้าน จนใครๆ เกือบจะคิดว่าเป็นเกย์ละก็ที่แท้ เขาคนนั้นเป็นคนวันศุกร์นั่นเอง เมื่อรักใครชอบใครคนวันศุกร์จะเทคแคร์เอาใจได้ ละเมียดละไมที่สุดยิ่งกว่าคนเกิดวันอื่นๆ แต่ด้วยความที่รักตัวเองมาก หลงตัวเองพอสมควร ดังนั้นคุณจึงต้องการให้คนพิเศษของคุณ ทุ่มเทรักให้คุณสุดหัวใจ ถ้ารู้สึกว่ายังได้ความรักจากเขาหรือเธอไม่มากพอ คุณจะร้ายใส่ทันที แม้เสน่ห์ของคนวันศุกร์จะอยู่ที่ความอ่อนหวานก็เถอะ ยามหึงหวงหรือโกรธเคืองแล้วจะปากร้ายมาก แต่ในจิตใจไม่พิษร้ายใดๆ เป็นคนใจกว้างและเป็นคนซื่อตรงซื่อสัตย์มากด้วยซ้ำ เพียงแต่คิดมากขี้ระแวงเท่านั้นเอง ดวงความรักของวันศุกร์ค่อนข้างอาภัพ ทั้งๆ ที่มีคนมารักจริงแบบหวังแต่ง แต่ก็มักจบลงเพราะความไม่มีเหตุผลอย่างสุดๆ ของคุณเอง เรื่องที่จะผิดหวังเพราะไปรักเขาข้างเดียวนั้นก็มีบ้าง แต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักหรอก ถ้าจะผิดหวังจนเสียหน้า ก็ เป็นเพราะไปหลงเชื่อคนที่มาหวังผลประโยชน์จากคุณโดยไม่ได้รักคุณจริง เนื่องจากคนวันศุกร์ฉลาดในเรื่องอื่น แต่ไม่ทันคนนักหรอก ที่ว่าดวงความรักของคนวันศุกร์อาภัพก็เพราะว่า แม้บางจังหวะชีวิตจะมีรักแสนซึ้งเพียงใดก็กลับต้องเลิกร้างกัน ทั้งๆ ที่ยังรัก บางคนก็อาภัพแบบมีแต่รักเทียมๆ สั้นๆ ไม่ดื่มด่ำลึกซึ้งนานวันให้อิ่มใจนัก คนเกิดวันศุกร์บางคนก็มีความสัมพันธ์รักที่ยั่งยืนอบอุ่น แต่มักไม่ใช่เป็นคนที่คุณหลงรักอย่างปักจิตปักใจมาก่อน นับเป็นดวงแห่งความรักที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
วันเสาร์ คนเกิดวันเสาร์ มีดวงชะตาในเรื่องรักที่ค่อนข้างดีพอสมควร ไม่ค่อยจะมีปัญหาปวด หัวปวดใจ จนเดือดร้อนเพราะเรื่องความรักอย่างคนเกิดวันอื่นๆ เนื่องจากพื้นฐานนิสัยที่เป็นคนเด็ดเดี่ยว หนักแน่น คุณจึงคบใครก็คบอยู่คนเดียว พอเลิกกันเมื่อใดจึงค่อยมีรักใหม่ แต่คนวันเสาร์จะไม่ออกไปวิ่งไขว่คว้าหารักมาใส่ตัวหรอก นอกจากรอให้กามเทพแผลงสอนเองตามธรรมชาติดีกว่า แม้จะดูสุขุม มีระบบระเบียบ เป็นคนตรง หัวแข็งไม่เบา แต่ในใจคนวันเสาร์ก็อ่อนไหวไม่อยากกับเรื่องรัก เห็นใครถูกใจ ก็ชอบแต่ก็รู้จักยับยั้งใจ ไม่วิ่งเข้าประกบทันทีเด็ดขาด ถ้าจะมีความเจ้าชู้ ก็เจ้าชู้เงียบ แต่ไม่ใช่เงียบแบบแอบเอาจริงอย่างคนวันจันทร์ เพราะคนวันเสาร์จะแค่มอง รู้สึกชอบ ส่งยิ้มไปบ้าง แต่ก็ไม่คิดอะไรมากกว่านั้น ดวงความรักของคุณ เป็นลักษณะที่มีความสัมพันธ์มีความผูกพันธ์ เต็มไปด้วยความลึกซึ้งไม่ใช่รักแบบตื่นเต้นเร้าใจสั้นๆ แล้วจบลงเหมือนเพียงจุดพลุดอกไม้ไฟ คนวันเสาร์ทำให้คนอื่นประทับใจได้เสมอ กับความสุขุมท ระนง อดทน มุ่งมั่น ใส่ใจคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ถ้าใครคนนั้นฟู่ฟ่าหรูหราใช้เงินกระหน่ำเกินไปคุณก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน ความที่เป็นคนช่างเลือกคนวันเสาร์ จึงไม่ใช่คนประเภทที่มีใครๆ เคียงข้างอยู่ตลอดเวลา บางปีถ้าไม่ปิ๊งใครมากๆ ก็ยอมเปลี่ยวใจตลอดปีไม่ซีเรียส ถ้าคนวันเสาร์ถูกใจใคร จะใช้เวลาดูใจดูนิสัยก่อนจะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปให้ลึกซึ้ง ด้วยความขี้ระแวงไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ต้องดูแล้วดูอีกกว่าจะตัดสินใจเรื่องความเหมาะสมกัน คุณก็คิดมากกว่าคนวันเกิดใดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุหรือฐานะ เช่น อีกฝ่ายรวยกว่ามากหรือจนกว่ามากๆ คุณก็จะคิดมาก แม้จะรักแล้วแต่ก็ลังเล หรือถ้าอายุน้อยกว่ามากๆ หรือแก่กว่ามากๆ ก็กลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงช่องว่างระหว่างวัยจะมีหรือไม่ นี่หละคือสไตล์ความคิดของคนวันเสาร์ ปัญหารักในเรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยมีหรอก นอกจากจะสับสนกับตัวเอง ลองดูกันนะคะว่าตรงรึเปล่า
ที่มา http://content.mthai.com/view.php?pid=33&cate_id=130&content_id=20771&hash_id=1

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2551

รู้เรื่องกาแฟ

รู้เรื่องกาแฟ

กาแฟหรือภาษาอังกฤษคำว่า Coffee มีชื่อทางพฤกษศาสตร์คือ Coffee Arabica L. อยู่ในวงค์ Rubica Ceae และมีชื่อสามัญว่า Arabian Coffee, Arabica Coffee, Common Coffee กาแฟเป็นพืชประเภทไม้พุ่มเจริญเติบโตได้ดีในที่สูงอากาศชื้น กาแฟเป็นพืชที่ขึ้นตามป่าธรรมชาติมาก่อนที่มนุษย์จะนำออกมาจากป่ามาเป็นพืชทางการค้าหรือพืชเศรษฐกิจ เหตุเพราะในแต่ละปีกาแฟได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของโลกไปแล้วมีผู้นิยมบริโภคทั่วทุกมุมโลก สร้างธุรกิจได้หลากหลายแขนง มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกาแฟเป็นจำนวนมากกาแฟเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบแอฟริกาอาระเบียหรือประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน และมีการขยายพันธุ์ออกไปทั่วโลกในปัจจุบันรวมถึงมีการปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนกาแฟที่นิยมปลูกเป็นการค้าในประเทศไทยมี 2 ชนิด ได้แก่ กาแฟโรบัสต้า ซึ่งมีการผลิตประมาณ 50 ล้านตันต่อปี เพาะปลูกมากในแถบจังหวัดชุมพรและภาคใต้ของประเทศไทย อีกชนิดหนึ่งคือกาแฟอาราบิก้าซึ่งปลูกมากในภาคเหนือที่เป็นภูเขาสูงและอากาศหนาวเย็น กาแฟโรบัสต้านั้นนิยมนำไปทำกาแฟผงสำเร็จรูปชนิดชงละลายหมด ในขณะที่กาแฟอาราบิก้านิยมนำมาคั่ว บด และชงโดยการกรองกากออกหรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกว่า "กาแฟสด" นั่นเอง กาแฟ ( Coffee ) เป็นพืชที่มีสารออกฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาท ซึ่งในกาแฟจะมีสารคาเฟอีน โดยในแต่ละส่วนของต้นกาแฟจะมีสารคาเฟอีนที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในใบกาแฟมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 1 - 1.25% เปลือกและผลชั้นนอกของกาแฟมีคาเฟอีนและกรดมอลลิค แมนไนท์ น้ำตาลอยู่ส่วนหนึ่ง ส่วนเมล็ดกาแฟมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 0.72 - 2.43% กรดกอลลิค กรดซิตริก โปรตีน กลูดคส กรดCoffeo-lannic และน้ำมันหอมระเหยต่างๆ นอกจากนี้กาแฟยังมีสรรพคุณทางยา โดยกาแฟใช้กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แก้ง่วงนอนในบางคนที่ดื่มกาแฟเข้าไปแล้วอาจจะทำให้นอนไม่หลับ กระตุ้นระบบหายใจ ช่วยการทำงานของกระเพาะอาหารและไต ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหารในระดับความเข้มข้นหนึ่งๆ กาแฟยังช่วยล้างฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ได้ และบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่ง กาแฟให้ทั้งประโยชน์หลายอย่างในขณะเดียวกันก็ให้โทษสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
คำศัพท์ที่เกี่ยวกับกาแฟ เราคงเคยได้ยินคำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกาแฟหลายคำดังนี้.
Body : หมายถึงเนื้อสารกาแฟ
Aroma : หมายถึงกลิ่นหอมของกาแฟ เช่น floral, fruity, chocolaty, caramelly

Roast : หมายถึงการคั่วกาแฟ ซึ่งจะมีความเข้มข้นตั้งแต่ระดับ light roasted, medium roasted,dark roasted, darkest roasted
Bland : หมายถึงรสจัดของกาแฟ เพราะเก็บเกี่ยวในช่วงที่กาแฟยังไม่แก่เต็มที่
Acidity : หมายถึงรสเปรี้ยวของกาแฟ ซึ่งเป็นรสเฉพาะของกาแฟเท่านั้น
Strong : หมายถึงดีกรีความเข้มของรสชาดกาแฟ
Tangy : หมายถึงรสเปรี้ยวแหลมของกาแฟ
Shot : หมายถึงปริมาณกาแฟ 1 shot = 2.5 onz.
Latte' Art : หมายถึงศิลปะการสร้างสรรค์ฟองนม
Barista : หมายถึงผู้ชงกาแฟหรือผู้ปรุงกาแฟ
Blend : หมายถึงการปรุงกาแฟด้วยสูตรพิเศษแบบผสมผสานเพื่อให้ได้รสชาด กลิ่น ของกาแฟออกมาแตกต่างกันตามรสนิยม

ขนิดของกาแฟและข้อดีของการดื่มกาแฟ

ชนิดของกาแฟชนิดของกาแฟ
ชนิดของกาแฟในรูปแบบต่างๆ มีดังนี้
เอสเปรสโซ (Espresso)
เป็นกาแฟที่ถูกเตรียมด้วยเครื่องพิเศษจากเมล็ดกาแฟบดละเอียด ถูกขับผ่านออกมาในรูปของไอน้ำภายใต้ความดันสูง กรรมวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 18-25 วินาที 1 ช็อทของเอสเปรสโซมีปริมาณ 1-2 ออนซ์ ผิวหน้าของกาแฟจะเป็นฟองครีมสีทอง ซึ่งควรจะใส่ด้วยถ้วยที่จะเสริฟ โดยตรง
คาปูชิโน (Cappucino)
เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่มีการใส่นมและฟองนมลงไปในส่วนที่เหลือของถ้วยในอัตราส่วนที่เท่ากัน
ลาเต้ (Latta)
เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่เติมนมร้อนลงไป แล้วปิดหน้าด้วยฟองนมจำนวนเล็กน้อย (ประมาณ 1/2 นิ้ว)
มอคคา (Mocha)
เป็นเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่มีการผสมน้ำเชื่อมช็อกโกแลตและนมร้อนลงไป ก่อนที่จะปิดด้วยวิปครีม มอคคา ก็คือลาเต้ที่แต่งกลิ่นรสด้วยน้ำเชื่อมรสช็อกโกแลตนั่นเอง
อเมริกาโน (Americano)
อเมริกาโน ก็คือเครื่องดื่มเอสเปรสโซที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยน้ำร้อน เพื่อทำให้ได้กาแฟรสชาติเยี่ยมเต็มถ้วย


ข้อดีของการดื่มกาแฟ
ผลการศึกษาหลายฉบับเมื่อไม่นานมานี้แนะว่า การบริโภคกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะให้ผลดี ดังตัวอย่างเช่น.. งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกาพบว่าคนที่ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้ว มีโอกาสเกิดโรคพาร์คินสันน้อยลงถึง 5 เท่า การศึกษาของวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ดพบว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเกินวันละ 6 แก้วลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ราวร้อยละ 50 ขณะความเสี่ยงนี้ในผู้หญิงลดลงเกือบร้อยละ 30
สถาบันมะเร็งของญี่ปุ่นกล่าวว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 - 4 แก้ว อาจลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับลงถึงครึ่งหนึ่ง
แต่สมาคมโรคเบาหวานอังกฤษเตือนว่าอย่าดื่มเกินกว่านี้เพราะการดื่มมากเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกกระวนกระวาย นอนไม่หลับ และหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2551

Quiz # 4 Human Resource Information System (HRIS)

***** Human Resource Information System (HRIS) ในกรณีที่บริษัทของท่านมีสาขาอยู่ทั่วทุกภาค มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน ท่านสามารถนำระบบ HRISมาประยุกต์ใช้ในบริษัทของท่านอย่างไร จึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด******
ปัจจุบันเป็นการทำงานในยุคดิจิตอลและมีการแข่งขันกันสูง การทำงานต้องกระชับ ถูกต้อง รวดเร็ว ดังนั้นองค์กรใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากถึง 10,000 คนและมีหลายสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคแบบนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัวให้เป็นองค์กรยุคใหม่ซึ่งจะมุ่งพัฒนา ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์และระบบข้อมูลในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ให้ทันสมัยและก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์กรในโลกธุรกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์นั้น เกิดขึ้นตลอดเวลา หากองค์กรขาดการจัดการที่ดีในเรื่องของ การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ก็อาจจะทำให้พลาดการรับรู้ข่าวสารและโอกาสสำคัญต่าง ๆ ได้
องค์กรควรประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรมากขึ้น โดยให้มีความสามารถเชื่อมโยงตั้งแต่การเดินเข้ามาสมัครงานจนถึงการลาออกจากบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นระบบใหญ่ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ควรนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดการทรัพยากรมนุษย์มีดังต่อไปนี้
1. ระบบทะเบียนประวัติพื้นฐานของพนักงาน (Personal base system)
ระบบงานด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์จะซับซ้อนและใช้เวลามาก ดังนั้น ระบบการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร ข้อมูลประวัติพนักงาน การกำหนดค่าเริ่มต้นของระบบ และรหัสพื้นฐานต่าง ๆ เช่น รหัสหน่วยงาน รหัสตำแหน่ง เป็นต้น ซึ่งข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ จะถูกนำไปใช้ร่วมกับระบบงานอื่น ๆ ได้ในลักษณะของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (relationship database) ระบบข้อมูลพื้นฐานนี้ จะเป็นส่วนช่วยในการเชื่อมโยงระบบอื่นเข้าด้วยกัน เนื่องจากเป็นการแบ่งการใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน ดังนั้นหากไม่มีข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ระบบอื่น ก็อาจจะไม่สามารถทำงานได้ หรืออาจจะทำงานซ้ำซ้อนกัน ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองทรัพยากร ระบบนี้จะเป็นส่วนที่เก็บข้อมูลรายละเอียดของพนักงานแต่ละคน เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียภาษี สรุปเวลาทำงาน ประวัติการประเมินผลงาน ตลอดจนเอกสารสำคัญต่างๆ ซึ่งอาจเก็บในรูปของไฟล์รูปภาพ เช่น รูปของพนักงาน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น ความสามารถของระบบที่ควรจะมีเพื่อตอบสนองการใช้งานได้แก่

1.1 สามารถสร้างเงื่อนไขในการพิมพ์รายงานได้ไม่จำกัด และสามารถเก็บบันทึกเงื่อนไขที่ใช้เป็นประจำในแต่ละรายงานได้
1.2 ข้อมูลประวัติของพนักงานควรจะต้องครบถ้วน สมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพ และมีความทันสมัยตลอดเวลา
1.3 มีระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล สามารถกำหนดสิทธิในการเข้าใช้งานโปรแกรม หรือการเรียกใช้ข้อมูล สำหรับผู้ใช้งานแต่ละคนได้
1.4 สามารถพิมพ์รายงานได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ขึ้นอยู่กับความต้องการนำไปใช้ขององค์กร
1.5 สามารถกำหนดเงื่อนไขในการค้นหาข้อมูลได้หลายรูปแบบ เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
1.6 ระบบการติดต่อกับผู้ใช้ (user interface) ควรจะเข้าใจง่าย แม้พื้นฐานความรู้ของผู้ใช้จะแตกต่างกันก็ตาม
1.7 ควรมีความสามารถในด้านเครือข่าย เพื่อตอบสนองการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในองค์กร ซึ่งอาจจะแบ่งแยกเป็นหลายสาขา
1.8 ต้องมีระบบการสำรองข้อมูล (data backup and restore) เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉิน

2. ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกของพนักงาน (Time attendance)
ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องบันทึกเวลา จากอดีตที่เคยใช้เครื่องตอกบัตรมาเป็นเครื่องรูดบัตร มีการเก็บบันทึกข้อมูลเวลาไว้ในหน่วยความจำของเครื่องรูดบัตร ซึ่งสามารถจะดึงข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการไปเก็บบัตรตอกมาตรวจสอบ แล้วก็ต้องนำกลับไปไว้ที่เดิม จากความก้าวหน้าดังกล่าว ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี จึงควรมีความสามารถในการบริหารเวลาในระบบงาน โดยอาจเพิ่มเติมความสามารถอื่น ๆ เข้าไปด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น

2.1 สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องรูดบัตรได้ทุกยี่ห้อ
2.2 สามารถกำหนดแผนการทำงานของพนักงานได้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานรายเดือน รายวัน หรือพนักงานที่ต้องมีการเข้ากะที่แตกต่างกัน
2.3 สามารถตรวจสอบเวลาการทำงานที่ข้ามวันได้ เช่น การเข้าทำงานกะในคืนวันหนึ่ง และไปเลิกงานในตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง เป็นต้น
2.4 มีรายงานข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น พนักงานไม่รูดบัตรเข้าหรือออก รายงานการมาสาย หรือเลิกงานก่อนเวลา
2.5 สามารถแสดงสถิติการหยุดงาน การป่วย ลา ขาด สาย ของพนักงานแต่ละคน หรือเป็นหน่วยงาน ในแต่ละช่วงเวลา อาจสามารถแสดงเป็นกราฟเพื่อเสนอผู้บริหารได้
2.6 มีระบบเอกสารสำหรับรองรับการปรับปรุงข้อมูลเวลา ในกรณีที่จำเป็นต้องแก้ไขข้อมูล เช่น ใบแลกกะ ใบปรับเวลาการทำงาน ใบบันทึกกรณีลืมรูดบัตร ใบบันทึกการลา เป็นต้น

3. ระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือน (Payroll system)
ระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือนของแต่ละองค์กร อาจมีรูปแบบที่แตกต่างกัน อีกทั้งเงื่อนไขในการคิดคำนวณก็ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ รายได้บางประเภทอาจกำหนดตัวเลขในการคำนวณไว้แตกต่างกัน ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน หรือช่วงเวลาทำงานในวันนั้น ๆ เช่น ค่ากะ ค่าอาหาร เบี้ยเลี้ยงการเดินทาง เป็นต้น โดยที่เงื่อนไขเหล่านี้ อาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น ในระบบของการจ่ายเงินเดือน ผู้ใช้งานจึงควรที่จะสามารถกำหนดเงื่อนไข และสูตรการคำนวณรายได้หรือเงินหักต่าง ๆ ได้เองตลอดเวลา โดยไม่ต้องทำการแก้ไขที่ตัวโปรแกรมแต่อย่างใด ความสามารถของระบบนี้ที่ควรจะมี ได้แก่

3.1 มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดสูตรคำนวณ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการคำนวณรายได้และเงินหัก
3.2 สามารถจัดส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือนพนักงาน ในรูปแบบที่ต้องการของแต่ละธนาคารได้ สำหรับการจ่ายเงินเดือนผ่านทางธนาคาร
3.3 สามารถจัดส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ข้อมูลกองทุนประกันสังคม รายงานด้านภาษีสำหรับส่งกรมสรรพกร เป็นต้น
3.4 สามารถกำหนดเงื่อนไขสำหรับการหักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้หลายอย่าง และสามารถกำหนดรูปแบบของรายงานได้ตามที่แต่ละกองทุนกำหนดรูปแบบไว้
3.5 สามารถที่จะส่งและรับข้อมูล (import-export data) ที่เกี่ยวกับรายได้ ในรูปแบบไฟล์อื่น ๆ ได้ เช่น ในรูปของไฟล์ Excel เป็นต้น
3.6 สามารถพิมพ์รายงานด้านภาษีได้ครอบคลุมทุกรูปแบบ เช่น ภงด.1 ภงด.1ก ภงด.91 50 ทวิ เป็นต้น

4. ระบบการประเมินผลงานและการเลื่อนขั้นตำแหน่ง (Promotion and evaluation system)
ระบบการประเมินผลงานในปัจจุบันของแต่ละองค์กร จะมีรูปแบบที่หลากหลาย จนไม่อาจถือว่าเป็นมาตรฐานได้ เพราะแต่ละระบบก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน มีความเหมาะสมกับแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน ดังนั้น ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดีจึงควรมีความยืดหยุ่นในเรื่องดังกล่าว ระบบควรที่จะสามารถสร้างใบประเมินได้ โดยที่หัวข้อการประเมินนั้นสามารถกำหนดได้ตามกลุ่มของพนักงาน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องหัวข้อที่พึงประเมิน เงื่อนไข และการให้คะแนน และหลังจากที่ทำการประเมินจนได้ผลคะแนนออกมาแล้ว ก็น่าที่จะมีรูปแบบจำลองวิธีการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายเงินโบนัส เพื่อควบคุมให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนด หรือนำผลที่ได้จากแบบจำลองต่าง ๆ เหล่านั้นมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับเงินเดือนหรือจ่ายโบนัส นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการเก็บบันทึกประวัติการประเมินผลงาน ประวัติการเลื่อนชั้นตำแหน่ง การทำความดีหรือถูกลงโทษ ประวัติการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายเงินโบนัสไว้ทุกครั้งโดยอัตโนมัติ เพื่อสามารถเรียกดูประวัติการประเมินผลย้อนหลังได้เมื่อต้องการ ดังนั้น ความสามารถเด่นๆ ที่พึงมีในระบบนี้ได้แก่

4.1 สามารถกำหนดหัวข้อในการประเมินได้ไม่จำกัด สามารถจัดกลุ่มหรือแยกวัตถุประสงค์ในการประเมินต่าง ๆ กันได้ตามความต้องการ เช่น ประเมินเพื่อขึ้นเงินเดือน ประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่ง หรือประเมินเพื่อจ่ายโบนัส เป็นต้น
4.2 สามารถกำหนดหัวข้อการประเมินได้ไม่จำกัด และสามารถสร้างใบประเมินออกมาได้
4.3 สามารถตั้งเงื่อนไข หรือสูตรคำนวณคะแนนสำหรับการประเมินได้
4.4 สามารถสร้างแบบจำลองการปรับเงินเดือนได้หลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้บริหารนำมาประกอบการตัดสินใจ
4.5 สามารถเก็บบันทึกประวัติการประเมินผล, การปรับเงินเดือน หรือการเลื่อนตำแหน่ง พร้อมทั้งเหตุผลในการปรับ เป็นต้น

5. ระบบการพัฒนาและฝึกอบรม (Training and development system)
หลายองค์กรในปัจจุบัน ต่างพยายามมุ่งพัฒนาคุณภาพการทำงาน ทั้งการผลิตและบริการ เพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น มาตรฐาน ISO เพราะการได้มาซึ่งการรับรองมาตรฐานนั้น จะทำให้สามารถแข่งขันในธุรกิจ และได้รับการยอมรับว่า องค์กรนั้นมีคุณภาพและประสิทธิภาพ จากกระแสในเรื่องของการมุ่งสู่มาตรฐานสากลนี้เอง มีข้อกำหนดให้องค์กรจะต้องจัดการในเรื่องของการพัฒนาและฝึกอบรมให้เป็นระบบ สามารถยืนยันและสอบกลับได้ว่า บุคคลนั้น ได้รับการฝึกอบรมในงานที่ต้องรับผิดชอบมาอย่างถูกต้อง องค์กรจะต้องกำหนดใบพรรณนาลักษณะงานของแต่ละตำแหน่งงาน ซึ่งประกอบด้วย หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ อำนาจในการบริหาร คุณสมบัติของบุคลากร และหลักสูตรที่จะต้องได้รับการฝึกอบรม เป็นต้น เพื่อให้บุคลากรมีคุณภาพเหมาะสมกับตำแหน่งงาน การที่จะตรวจสอบว่าบุคลากรผู้ใด ได้ผ่านการอบรมครบตามข้อกำหนดแล้วหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและกำลังคนเป็นอย่างมาก ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดี จึงควรที่จะต้องรองรับในเรื่องนี้ เช่น การเก็บประวัติการฝึกอบรมของบุคลากรแต่ละคน เพื่อใช้ตรวจสอบว่าได้ผ่านการฝึกอบรมในเรื่องใดมาบ้างแล้ว และยังมีหลักสูตรใดที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรม ระบบควรที่จะสามารถสร้างรายงานออกมาได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ หลังจากฝึกอบรมแล้ว ระบบก็ต้องสามารถบันทึกผลการประเมินผลไว้ได้ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย หรือคัดเลือกบุคลากรในการส่งเสริมให้มีการพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งในอนาคต ดังนั้น องค์ประกอบที่ควรจะมีในระบบนี้ ได้แก่

5.1 สามารถจัดทำแผนการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน หรือแต่ละตำแหน่งงานออกมาได้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งประมาณการค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้สามารถจัดเตรียมงบประมาณได้
5.2 บันทึกประวัติและผลการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน ว่าเคยฝึกอบรมในหลักสูตรใดมาบ้าง และสามารถที่จะพิมพ์รายงานออกมาได้
5.3 สามารถเก็บบันทึกผลการประเมินการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตร ทั้งในเรื่องของวิทยากร ผลที่ได้รับ เนื้อหา ค่าใช้จ่าย เป็นต้น เพื่อนำมาวิเคราะห์สำหรับการวางแผนฝึกอบรมในครั้งต่อไป
5.4 สามารถพิมพ์รายงานสรุปค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น แยกเป็นแต่ละหน่วยงาน แยกตามหลักสูตร หรือแยกเป็นปีงบประมาณ เป็นต้น เพื่อนำเสนอผู้บริหารได้

6. ระบบการจัดสวัสดิการพนักงาน (Welfare system)
ในองค์กรต่าง ๆ จะมีการจัดสวัสดิการอื่นให้กับพนักงาน นอกเหนือจากค่าจ้างและเงินเดือน ทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน ประเภทของสวัสดิการก็มีแตกต่างกันไปตามความสามารถขององค์กร สวัสดิการบางอย่างมีการจำกัดจำนวนการใช้ บางอย่างจำกัดวงเงินในการใช้ และสวัสดิการบางอย่างก็จำกัดเฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้น ความสามารถของระบบที่จะมาควบคุมในเรื่องการจัดสวัสดิการ จึงควรประกอบด้วย

6.1 รายงานประเภทของสวัสดิการต่างๆ ที่องค์กรจัดให้กับพนักงาน ตลอดจนเงื่อนไขในการใช้สวัสดิการนั้น ๆ
6.2 สามารถแจ้งเตือนให้ทราบได้ว่า พนักงานคนใดได้ใช้สวัสดิการใดเกินกว่าที่องค์กรกำหนดแล้ว พร้อมทั้งสามารถรายงานรายละเอียดต่าง ๆ ได้
6.3 ในกรณีการเบิกค่ารักษาพยายบาล สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ถึงโรคหรืออาการที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับพนักงาน เพื่อวางแผนป้องกันได้
6.4 สามารถสรุปค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการแต่ละปี เพื่อนำไปวางแผนงบประมาณปีต่อไป
6.5 สามารถเชื่อมโยงกับระบบการจ่ายเงินเดือนได้ โดยไม่ต้องไปทำการบันทึกข้อมูลใหม่
6.6 สามารถแจ้งให้ทราบถึงความผิดพลาด เมื่อมีการขอใช้สวัสดิการใด ๆ ที่ผิดเงื่อนไขที่องค์กรกำหนด เช่น พนักงานระดับล่าง ไม่สามารถขอเบิกสวัสดิการที่จัดไว้สำหรับผู้บริหารได้ เป็นต้น

7. ระบบการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน (Recruitment system)
เมื่อมีการลงทุนนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร ก็ควรมีการวางแผนการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้น ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสามารถประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ได้ ระบบนี้จะแยกข้อมูลออกจากระบบอื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนยังไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นพนักงานขององค์กร แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกแล้ว เช่น การทดสอบหรือการสัมภาษณ์ ระบบจะสามารถโอนข้อมูลพนักงานนั้น เข้าสู่ระบบได้โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปบันทึกประวัติพนักงานซ้ำอีก ดังนั้นระบบจึงควรมีความสามารถรองรับในเรื่องต่อไปนี้

7.1 การออกรายงาน หรือแบบฟอร์มรายชื่อผู้สมัคร เพื่อนำไปใช้ในการสอบสัมภาษณ์ โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ในการออกรายงานได้ เช่น ตำแหน่งที่สมัครงาน ช่วงอายุของผู้สมัคร ระดับการศึกษา เพศ เป็นต้น
7.2 สามารถบันทึกรายละเอียดผลของการสัมภาษณ์ หรือผลของการทดสอบ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการคัดเลือก
7.3 สามารถโอนข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้าสู่ระบบกลาง โดยไม่ต้องทำการบันทึกข้อมูลใหม่

8. ระบบย่อยอื่น ๆ (Other) เช่น
ระบบงานบริการข้อมูลด้วยตนเอง(Employee Self Service) - ในระหว่างที่พนักงานปฏิบัติงานอยู่ภายในบริษัทนั้นพนักงานสามารถแก้ไขระเบียนประวัติของตนเองได้- อนุมัติคำร้อง- ขออนุมัติการฝึกอบรม- ดูรายรับ-รายจ่าย ด้วยตัวเองผ่านทางเว็บ
- เบิกสวัสดิการต่าง ๆ
- หรือบันทึกใบลา

จากการที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างเร็วมาก การทำงานแบบต่างคนต่างทำ เปลี่ยนไปเป็นการทำงานร่วมกันบนเครือข่ายคอมพิวเตอร ดังนั้นเมื่อองค์กรได้นำระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์เข้ามาใช้งานแล้ว จึงควรวางแผนการใช้ให้คุ้มค่า เช่น อาจจะนำมาใช้สำหรับ การประกาศข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แทนการออกเป็นหนังสือเวียน การนำมาใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ในรูปแบบของการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) การนำมาใช้เก็บข้อมูลสำหรับผู้มาติดต่อ หรืออื่น ๆ ซึ่งแล้วแต่ว่าองค์กรจะกำหนดนโยบายอย่างไร พึงจำไว้เสมอว่าการลงทุนนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กรนั้น ในช่วงเริ่มแรกจะเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าองค์กรนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ผู้บริหารจะมองว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า ดังนั้นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนการตัดสินใจจัดหาระบบเข้ามาใช้ในองค์กร

ประโยชน์ของการนำระบบสารสนเทศ HRIS มาใช้ มีดังต่อไปนี้
1. การทำงานมีความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลมากขึ้น
ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างถูกต้องและเชื่อถือได้, สามารคิดคำนวณได้อย่างถูกต้องแม่นยำกว่า และมีรายละเอียดครบถ้วน, ข้อมูลตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน


2. การทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ระบบคอมพิวเตอร์สามารถคำนวณ แยกข้อมูล รวบรวมข้อมูล ปรับปรุงข้อมูลและรายงานได้รวดเร็วกว่าการใช้มือทำ นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการในการใช้งานได้ง่าย


3. สามารถทำงานได้หลายอย่างและซับซ้อน
คอมพิวเตอร์สามารถทำงายที่ยุ่งยากและซับซ้อนดีกว่ามนุษย์ทำ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยในการคัดเลือกคนความสามารถที่จะค้นหาพนักงานที่มีทักษะเฉพาะสำหรับตำแหน่งงานที่ว่าง ซึ่งจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการหาคนเข้าตำแหน่งจากภายนอกในเมื่อมีผู้มีคุณสมบัติอยู่แล้ว, ช่วยคิดค่าใช้จ่าย, ช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับการงานแผนอาชีพ, การจัดโครงสร้างองค์กร

4. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ระบบคอมพิวเตอร์สามารถรวบรวมข้อมูลทุกรายการมาใช้ประโยชน์ สำหรับผู้บริหารในการ ตัดสินใจวางแผนและควบคุมการบริหารองค์กรในการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการปฏิบัติงาน องค์กรไม่อาจลอกเลียแบบมาจากองค์กรอื่น ๆ ได้ ดังนั้นในการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานทรัพยากรมนุษย์จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึง ขอบเขต, เนื้อหา, โครงสร้างและขั้นตอนการดำเนินการที่เหมาะสม


บทสรุป
การที่องค์กรสามารถประยุกต์ใช้ HRIS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น ลดกำลังคนและขั้นตอนในการทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาเหลือพอที่จะวิเคราะห์ ทบทวนงาน นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความสะดวกทางด้านการสื่อสาร การติดตามงาน การลดพื้นที่จัดเก็บแฟ้มข้อมูล และยังช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้นอีกด้วย


ข้อคิดอีกประการหนึ่งก็คือ การเก็บข้อมูลดิบมักไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ การเก็บข้อมูลในรูปความรู้ หรือบทสรุปเชิงวิเคราะห์ จะเป็นประโยชน์มากกว่า นั่นคือควรมุ่งเน้นไปที่การจัดเก็บสารสนเทศที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ตีค่า และประมวลผลแล้วมากกว่า นอกจากนี้ผู้บริหารยังควรให้ความสำคัญกับการนำสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน ด้วย มิฉะนั้นผลที่ได้อาจไม่คุ้มต่อการลงทุน
เราต้องเข้าใจว่าการประยุกต์ใช้ HRIS ก็เพื่อช่วยเรื่องการจัดกระบวนงาน โดยไม่ลืมว่าเนื้อแท้ของการทำงานให้มีประสิทธิภาพก็ยังคงต้องอาศัยมันสมองของมนุษย์อยู่ดี ซึ่งลักษณะสำคัญประการหนึ่งของ HRIS สำหรับการจัดการกระบวนงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือ การมีระบบที่ค่อนข้างเสถียร หรือเปลี่ยนแปลงโดยใช้เวลาระยะหนึ่ง อาจเป็นเดือน เป็นปี ที่มิใช่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่ผู้บริหารควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกระบบ HRIS คือต้องแน่ใจว่าระบบดังกล่าว สามารถรองรับการทำงานที่องค์กรต้องการได้ เพราะเวลาที่มีการนำเสนอ ผู้พัฒนาระบบมักจะบอกว่า ระบบของตนทำอย่างนั้นได้ ทำอย่างนี้ได้ แต่มักจะไม่บอกว่า "ทำอย่างไร?" เมื่อติดตั้งระบบแล้ว ผู้ใข้จึงจะพบปัญหา ซึ่งก็อาจจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วจะเห็นได้ว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นการนำระบบสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรและกับบุคลากรขององค์กร เพระเราถือว่า ทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ที่จะนำพาองค์กรให้ก้าวหน้า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้องค์กรจะมีระบบที่ดีเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าบุคลากรภายในองค์กรไม่มีคุณภาพ และการขาดการนับสนุนจากฝ่ายบริหารแล้ว ระบบที่ดี ก็ไม่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เครื่องดื่มทายนิสัย



ชอบดื่มกาแฟ ผู้ที่มีเครื่องดื่มที่ชอบที่สุดคือกาแฟนั้น มักเป็นคนที่มีความคาดหวังในชีวิตสูงมาก เมื่อตั้งความหวังอะไรไว้ ก็จะพยายามไปถึงสิ่งที่หวังนั้นให้ได้อย่างใจเย็นและรู้จักการรอคอย ทั้งยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจมาก นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ยึดถือในเหตุผลและหลักการ ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่ใช่คนที่ซับซ้อนอะไรเลย หากเป็นคนจริงจังและตรงไปตรงมามาก ชอบคิดอะไรง่าย ๆ แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียดในชีวิตนัก
ชอบดื่มน้ำชา คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มจำพวกชาต่างๆ นั้นมักเป็นคนที่มีความละเมียดละไมในการใช้ชีวิตมาก มีความนุ่มนวลอ่อนโยนและชอบเอาอกเอาใจคนรอบข้าง คนที่อยู่ใกล้ชิดมักรู้สึกถึงความสงบ อบอุ่น และผ่อนคลาย ทั้งยังสามารถเข้าได้กับคนทุกกลุ่ม และมีเสน่ห์ต่อทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ปรับตัวได้เก่ง ช่างประนีประนอม และไม่ชอบความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น แถมยังเป็นคนที่มักลังเลในการตัดสินใจเสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม
ชอบดื่มไวน์ สำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์นั้น มักเป็นคนที่มีรายละเอียดและกฎเกณฑ์ในชีวิตเสมอ ทั้งยังเป็นคนที่ยึดมั่นต่อขนบธรรมเนียมประเพณีมาก ๆ อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ยึดมั่นในความถูกต้องและกฎเกณฑ์ที่ดีงามของสังคม เป็นคนที่รู้จักกาละเทศะ และสามารถเข้าสังคมได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องพิธีกรรมต่างๆ และค่อนข้างจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม จึงมักจะมีปัญหากับคนที่ชอบทำตัวอิสระเกินขอบเขตอยู่เสมอ
ชอบดื่มเหล้าต่าง ๆ สำหรับคนที่ชอบดื่มเหล้าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นบรั่นดี วิสกี้ วอดก้า หรือเหล้าใด ๆ ก็ตามนั้น มักเป็นคนที่รักความสนุกสนาน ชอบแสวงหาความบันเทิงให้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นคนที่ใจกว้าง ทำให้เป็นที่รู้จักของคนมากหน้าหลายตา และมักจะสนใจในเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ เท่านั้น แต่กับเรื่องเล็กๆ ใกล้ตัวกลับกลายเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบได้อย่างน่าแปลกใจ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความขัดแย้งในตัวเองมาก เช่น บุคลิกอาจดูเข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วจิตใจอ่อนแอยิ่งนัก
ชอบดื่มเบียร์ คนที่ชอบดื่มเบียร์มากที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหลายนั้น มักเป็นคนที่มีชีวิตชีวา และมีจิตใจที่ฮึกเหิมกล้าหาญมาก รักการผจญภัยเป็นที่สุด ทั้งยังเป็นคนใจร้อนใจเร็วไปเสียทุกเรื่อง โดยไม่สนใจสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่ใช่คนรอบคอบที่รู้จักคิดอะไรโดยมีการไตร่ตรองนัก มักเปลี่ยนใจง่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีความเป็นตัวของตัวเองมาก ให้ทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจะทนไม่ได้เลย มีความเป็นอิสระสูงและชอบการแสดงออก
ดื่มได้ทุกอย่าง ส่วนคนที่ไม่ได้ชอบเครื่องดื่มชนิดใดมากเป็นพิเศษ แต่สามารถดื่มได้ทุดชนิดตามแต่จะมีมาให้ดื่ม มักเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน และมีความรู้สึกที่อ่อนไหว เปราะบาง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รับรู้และเข้าอกเข้าใจในความทุกข์ความเศร้าของคนอื่นได้อย่างลึกซึ้ง แต่จะเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบการเผชิญหน้า และมักหลีกเลี่ยงสิ่งที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าทุกอย่าง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่หลงไหลอะไรได้ง่าย มักจะสับสนกับความต้องการของตัวเองอยู่เสมอ
ชอบดื่มน้ำหวาน คนที่ชอบดื่มน้ำหวานธรรมดาๆ ง่ายๆ มักเป็นคนที่รักสงบ ชอบทำงานที่มีความมั่นคง ปลอดภัย มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ และมีหลักประกันในชีวิตที่แน่นอน หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกับความสับสนวุ่นวาย มีความมานะพยายามสูง ค่อนข้างจะยึดมั่นในสิ่งที่ตนคิดเอามาก ๆ ไม่ใช่คนที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้โดยง่าย ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มีความสุขอยู่เสมอและมีความหวังในชีวิตอยู่ตลอดเวลา
ชอบดื่มน้ำอัดลม สำหรับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมมากที่สุดนั้น มักเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองเอามาก ๆ ไม่มีใครสามารถบังคับให้อยู่ในกฎเกณฑ์ได้ ทั้งยังเป็นคนที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเท่าที่ควร แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่ให้ความสนใจในเรื่องที่ลึกซึ้งเช่นธรรมะหรือศาสนา และเป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่รักการเดินทางมาก ชอบการผจญภัยตลอดเวลา และไม่เคยย่อท้อต่อความผิดหวัง
ชอบดื่มน้ำผลไม้ คนที่ชอบดื่มน้ำผลไม้มากที่สุดจนเป็นเครื่องดื่มแสนโปรดปรานนั้น มักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็งมาก ทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยทีเดียว และจะมีความสุขมากหากได้ทำงาน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ รับใช้ บริการมาก จนเหมือนชอบเข้าไปวุ่นวายในชีวิตคนอื่น แต่ว่าก็จะทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเสมอและยังมีลักษณะของคนที่เจ้าระเบียบ ออกจะจู้จี้จุกจิกอยู่สักหน่อย ให้ความสำคัญต่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนลืมสิ่งสำคัญไปอยู่บ่อยๆ

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

"คำขวัญหรือสโลแกนโดนใจ...แต่งดีๆ มีรางวัล"

ขอเชิญเพื่อนๆ ร่วมส่ง...คำขวัญหรือสโลแกนโดนใจเกี่ยวกาแฟ ผู้ที่ส่งคำขวัญที่โดนใจเรามากที่สุด 4 ท่าน จะได้รับบัตรส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 15% จาก ร้านCozee Cafe' (ถ.ลาดพร้าววังหิน ตรงข้ามวัดใหม่เสนา) ท่านละ 1 รางวัล กรุณาส่งคำขวัญพร้อมชื่อ-นามสกุล และเบอร์ติดต่อกลับนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

รู้จัก "บาริสต้า(Barista)" กันไหม

ใครบ้างที่รู้ว่า บาริสต้า(Barista) หมายถึงอะไร?

ทายนิสัยจากกาแฟถ้วยโปรด


~ ชอบกาแฟขมๆ ~ คนที่ชอบกาแฟรสเข้มจัดนั้น มักจะเป็นคนเอาการเอางาน ช่างคิด ช่างวางแผน มีหัวทางธุรกิจ และชอบการทำงานที่ท้าทาย แต่ก็มักเป็นคนที่มีความเครียดเสมอๆ เพราะเฝ้าครุ่นคิดแต่หนทางที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองหวัง

~ ชอบกาแฟรสชาติหวานมัน ~ คนที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น ทั้งหวานและมันถึงใจ แสดงว่าเป็นคนที่เปิดเผย ใจกว้าง ชอบความสนุกสนานในชีวิต เป็นคนร่าเริง ช่างกระเซ้าเย้าแหย่ นอกจากนั้นยังเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ และจะรักษาสิทธิของตัวเองเสมอ

~ ชอบกาแฟที่กลิ่นหอมแรง ~ ส่วนคนที่ชอบการแฟที่มีกลิ่นหอมแรงๆ เข้มข้น แสดงว่าเป็นคนที่ช่างเลือก ชอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด มักพิถีพิถันต่อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นคนรักเพื่อน มีทัศนะที่ชัดเจนต่อสิ่งต่างๆ และชอบการอยู่ในสังคมที่มีแต่คนทัศนะตรงกัน

~ ชอบกาแฟรสอ่อนๆ ~ คนที่ชอบกาแฟรสชาติอ่อนๆ ขอให้มีกลิ่นกาแฟก็เป็นอันใช้ได้นั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสงบ สุขภาพ ชอบความสะอาด และความปลอดโปร่ง สบายกาย สบายใจ นอกจากนั้นยังเป็นคนเคารพความเห็นของผู้อื่น ไม่ชอบโต้แย้งกับใครโดยไม่จำเป็น

~ ชอบกาแฟหวานจัด ~ คนที่ชอบกาแฟหวานมากๆ เรียกว่าหวานนำรสอื่นๆ มาเลยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์เปราะบาง ปรวนแปรง่าย เป็นคนที่มักจะมีความใฝ่ฝันเกี่ยวกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ อยากมีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก อยากเป็นคนพิเศษของใครซักคน

~ ชอบกาแฟรสกลมกล่อม ~ ส่วนคนที่ชอบกาแฟรสชาติพอดีๆ ไม่หวานเกินไป ไม่มันเกินไป แสดงว่าเป็นคนที่ชอบชีวิตที่ลงตัว มีความพอดีในจิตใจ ไม่ชอบการแก่งแย่งแข่งขัน ไม่ชอบการต่อสู้เพื่อให้รู้ผลแพ้ชนะชนะ มักเป็นคนดูแลสุขภาพ ให้ความสนใจเรื่องการเรียน การศึกษา ชอบการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

~ ชอบกาแฟร้อนๆ ~ สวนคนที่ชอบกาแฟร้อนๆ นั้น มักเป็นคนที่หาความสุขได้อย่างง่ายๆ ชอบความมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง เป็นคนตื่นตัวเร็วและปรับตัวเก่ง สามารถนำเอาประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเองมาปรับใช้และให้ข้อคิดที่ดีกับคนอื่นๆ

~ ชอบดื่มกาแฟเย็น ~ ส่วนคนที่ไม่ชอบกาแฟร้อนๆ อุ่นๆ แต่ชอบกาแฟเย็นเจี๊ยบชื่นใจ แสดงว่าเป็นคนชอบการมีเพื่อนเยอะๆ ชอบการได้พักผ่อน ผ่อนคลาย เมื่อเวลาทำงานก็ทำงานก็ตั้งใจทุ่มเท แต่พอเวลาพักก็หาความสุขให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ เป็นคนร่าเริงเช่นกัน ใครอยู่ใกล้ก็มักเบิกบานไปด้วย


วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

กาแฟ…มีดีกว่าที่คิด มี “สารต้านอนุมูลอิสระ”






ทราบมั้ยคะว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ”สามารถพบได้ในเมล็ดกาแฟสดๆ ผิวพรรณที่สดใสเป็นปราการด่านแรกที่ทำให้เราเห็นสุขภาพและความงามของผู้หญิงได้นะคะ

ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงหลายคนจึงพากันแสวงหาวิธีการดูแลผิวพรรณด้วยกรรมวิธีต่างๆ
สิ่งแรกที่ผู้หญิงยุคใหม่คำนึงถึงคือการดูแลที่เริ่มต้นตั้งแต่ภายในร่างกาย (Inner Beauty) อาทิ การกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ฯลฯ
และที่สำคัญคือการจัดการกับเจ้าอนุมูลอิสระในร่างกาย ตัวการสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงเกิดปัญหาผิวเสื่อมสภาพเร็วนั่นเอง


“อนุมูลอิสระ”หรือที่รู้จักกันดีในนามว่า Free Radical
ตัวการที่ทำลายเนื้อเยื่อในเซลล์ และทำให้ผิวเสื่อมสภาพตัวนี้
เกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกาย อาทิ แสงแดด มลพิษในอากาศ ฝุ่น ควันบุหรี่ฯ ลฯ



แต่คุณผู้หญิงที่ไม่ได้ออกจากบ้านเลยก็ใช่ว่าจะหนีพ้นนะคะ เพราะอนุมูลอิสระยังเกิดขึ้นได้ภายในร่างกายของเรา ทั้งจากกระบวนการหายใจและกระบวนการเผาผลาญอาหารนั่นเองค่ะ ด้วยเหตุนี้..ผู้หญิงเราจึงต้องมองหา “สารต้านอนุมูลอิสระ”กัน เพื่อให้มาทำหน้าที่หยุดยั้งการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย และก็พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีอยู่ในผักและผลไม้

รู้หรือไม่ว่า..ในเมล็ดกาแฟที่ยังสดๆจากต้นกาแฟนั้น จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่เรียกว่ากลุ่มกรดคลอโรจินิกไม่แพ้ผักผลไม้ และชาเขียวเลย แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะพบมากในผักและผลไม้หลายชนิด แต่ที่ผ่านมาผู้หญิงหลายคนอาจกำลังกังวลว่าจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกาย ต้องการในแต่ละวัน ทางเลือกใหม่ก็คือการเลือกลิ้มลองกาแฟรสชาติหอมกรุ่น ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดไว้อีกค่ะ

ที่มา http://www.daradaily.co.th/